งานการเมือง ของ โสภณ ซารัมย์

นายโสภณ ซารัมย์ ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดบุรีรัมย์ ในปี พ.ศ. 2544 ในนามพรรคชาติไทย และการเลือกตั้งในปี พ.ศ. 2548 นายโสภณ ได้รับการเลือกตั้งในนามพรรคไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชน ในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2550 ภายหลังการยุบพรรคพลังประชาชน นายโสภณ ซึ่งเป็นคนใกล้ชิดของนายเนวิน ชิดชอบ จึงได้ย้ายมาสังกัดพรรคภูมิใจไทย พ.ศ. 2553

ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี

โสภณ ซารัมย์ ได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในรัฐบาลของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์[1] และในการร่วมรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้รับตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม[2]

ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี พ.ศ. 2553 เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม และ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2553 มีรัฐมนตรีจำนวน 5 คนที่ถูกอภิปราย ซึ่งนายโสภณ ซารัมย์ ก็เป็นรัฐมนตรีที่ฝ่ายค้านเสนอญัตติอภิปรายเช่นกัน โดยการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายโสภณในครั้งนี้ มุ่งเน้นที่เรื่องการทุจริตการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า ช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ (สายสีม่วง) วงเงินลงทุน 36,055 ล้านบาท เนื่องจากนายโสภณได้ปรับเปลี่ยนวงเงินลงทุนจาก 4 โครงการ เหลือ 1 โครงการ แต่วงเงินลงทุนยังเท่าเดิม อีกทั้ง ยังเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทเอกชน 2 ราย คือ บริษัท ซิโน-ไทย จำกัด วงเงิน 3,233 ล้านบาท ซึ่งเป็นบริษัทเครือญาติของนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และบริษัท ช.การช่าง วงเงิน 2,658 ล้านบาท ทำให้รัฐสูญเสียเงินถึง 6,001 ล้านบาท [3] ภายหลังได้มีการลงมติไม่ไว้วางใจ โดยนายโสภณ ซารัมย์ ได้รับคะแนนเสียงไว้วางใจ 234 เสียง ไม่ไว้วางใจ 196 เสียง ผ่านการไว้วางใจจากสภาผู้แทนราษฎร แต่เป็นที่มาของปัญหาการโหวตไม่ไว้วางใจของพรรคร่วมรัฐบาล (พรรคเพื่อแผ่นดิน) จนต้องมีการปรับพรรคเพื่อแผ่นดิน ออกจากการร่วมรัฐบาล [4]